วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ดอกกุหลาบหลากสีที่บ้าน

วันนี้เอาภาพดอกกุหลาบที่ปลูกที่บ้านมาให้ชมกันค่ะ




ชุดแรกเป็นกุหลาบมอญ อาจารย์เยาวณี อดีตหัวหน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศให้มาตอนเออลี่ปี 2555
                               


ชุดที่2 เป็นกุหลาบหนู (กลม)
บานเต็มที่แล้ว


เริ่มโรยรา

สภาพเหี่ยวแห้งแล้ว

ตอนซื้อมาต้นเล็กๆ คนขายบอกเป็นกุหลาบหนู พอตอนออกดอกมาก็งง-งง ดอกก็เล็กเป็นกุลาบหนูได้
แต่ลักษณะมันไม่ใช่ ดอกเป็นรูปถ้วย เท่านี้บานสุดแล้ว แล้วก็แห้งไปทั้งกลมๆแบบนี้แหละ


ชุดที่3 เป็นกุหลาบหนู 






















พุดน้ำบุษย์




ในบรรดาดอกพุดทั้งหมดนี่ เจ้าพุดน้ำบุษย์ต้นนี้มีดอกสีเหลืองและส่งกลิ่นหอมแรงมาก


                                             
ต้นนี้ซื้อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วเป็นต้นตอน เลี้ยงใส่กระถางเล็กๆไว้  ตอนหลังก็เปลี่ยนมาใส่กระถางใหญ่ขึ้นมาหน่อย นับเป็นคนโชคดีอยู่อย่างคือไม่ได้ดูแลต้นไม้อย่างจริงจังเท่าไดนัก  ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอก ปูุ๋ยเคมีก็ไม่ค่อยใส่ ชอบใส่ปุ๋ยโดยการเก็บใบไม้ที่หล่นหน้าบ้านมาใส่โคนต้นไม้หลังบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละบ้านมักทิ้งเป็นขยะให้เทศบาลไป


ลักษณะของต้น เป็นไม้พุ่มต้นเล็กหรือพุ่มเตี้ยสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ทรงพุ่มแน่น แตกกิ่งต่ำเป็นสาขาจำนวนมากตามข้อของลำต้น ลำต้นแก่สีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสีเขียว
                                                     
เนื่องจากพุดน้ำบุษย์เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม ดอกมีกลิ่นหอมแรง ดอกบานอยู่ได้ราว 7 วัน 


                                            
เมื่อแรกแย้มบานเป็นสีออกขาวนวลส่งกลิ่นหอมมาก หอมไกล 2 - 3 เมตร 



เมื่อบานเข้าวันที่สองสีจะเริ่มออกเหลืองอ่อน


 และวันต่อๆมา จะค่อยๆ เหลืองเข้มจนกระทั่งเข้มจัด 




กลิ่นหอมตลอดวันแต่จะหอมมากในตอนค่ำ น้ำบุษย์หมายถึงพลอยสีเหลืองหรือบุษราคัม เป็นคำเปรียบกับสีและความงามของดอกไม้ชนิดนี้
  



สามารถออกดอกตลอดทั้งปี  ฉะนั้นปลูกแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน  ชอบแดด ดูแลง่าย

ต้นลิปสติก หรือ Lipstick Vine



ซื้อมานานมากจนจำไม่ได้แล้ว คิดว่าคงสัก 5-6 ปีเป็นอย่างน้อย  รดนำ้บ้างไม่รดบ้าง  คงกินอาหาร
จากความชื้นในอากาศมั้งถึงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้  ครั้งแรกแขวนที่ต้นโมกข์หน้าบ้าน ออกดอกมา 2 ดอกมั้ง (ดอกนะไม่ใช่ครั้ง ขอยืนยันว่าไม่ได้พิมพ์ผิด 555) แล้วก็ลืมไปเลย ไม่ได้เห็นดอกอีกเลย มาตอนกลางปีที่แล้ว เห็นสภาพแล้วน่าสงสาร ดินแห้งมีแต่รากแล้วมั้ง  เลยย้ายมาแขวนหลังบ้าน ก็เลยได้รดน้ำบ้างแต่ไม่ได้คาดหวังอะไร และชื่อก็จำไม่ได้แล้ว  วันก่อนเห็นแตกกิ่งยาวมาก ก็เลยไปจับๆดู  อ้าว!   มี ดอกด้วยเหรอ เจ้าต้นนี้  เลยให้ความสนใจหน่อย
เริ่มจากชื่อก่อน แล้วก็รายละเอียดอื่นๆด้วย ได้มาดังนี้


เจ้าต้นนี้เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อนบ้านเรานี่เอง มีชื่อสามัญว่า Lipstick Vine คนไทยเรียก ต้นลิปสติก  เป็นต้นไม้เลื้อยเล็กๆยาวไม่เกิน 2 เมตร เป็นไม้ดอกที่มีอายุหลายปี ..มิน่าถึงอยู่กับเราได้นานหลายปี ไม่ยอมตายซักที 




ใบเป็นลักษณะ
ใบเดี่ยวรูปแกมหอก ออกเป็นคู่ตรงกันตามกิ่ง เนื้อใบค่อนข้างหนาอวบ โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้มรูปรีหรือรูปไข่ 




ส่วนดอกนั้น
ออกเป็นช่อตามซอกใบ ปลายกิ่ง แต่ละดอกมีกลีบเลี้ยงเป็นรูปหลอด สีแดงเลือดหมู (อาจจะเป็นสีอื่นก็ได้เช่นดอกสีแดงอมส้ม สีเหลือง และสีชมพู) ส่วนกลีบดอกจะโผล่ออกจากหลอดกลีบเลี้ยง ซึ่งมี 5 กลีบ พันธุ์ไม้นี้ถ้าได้น้ำจะออกดอกเกือบทั้งปี แต่ช่วงที่ให้ดอกดกเป็นพิเศษ จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ (มิน่า...นี่ก็เดือนกุมภาพันธ์ เลยได้เห็นดอกออกมาหลายช่อ)



ผล ออกเป็นฝักยาว 30 - 60 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแห้งแตกด้านในมีเมล็ด เมล็ดมีพู่ขนติดที่ปลาย สำหรับผลนั้น ครั้งนี้ต้องคอยดูว่าจะมีลักษณะอย่างไร ค่อยมาอัพเดทอีกทีก็แล้วกันนะคะ


ส่วนการขยายพันธุ์ก็ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือการปักชำกิ่ง

นอกจากดอกสีแดงแล้วยังมีดอกสีอื่นด้วย เช่น สีส้ม สีชมพู สีขาว และสีเหลือง ซึ่งสีส้มกับสีชมพูนั้นลักษณะดอกจะคล้ายกับชนิดดอกสีแดง