ตอนที่เห็นครั้งแรก ประทับใจในสีของดอกสีม่วงที่สดสะดุดตา แล้วก็รูปทรงของดอก
ก็ดูแปลกตา เลยตัดสินใจซื้อมา 1 กระถาง
ดอกบอลลูน เข้าใจว่าได้ชื่อมาจากเจ้าดอกตูมที่มีรูปร่างเหมือนบอลลูนข้างบนนั่น
ครั้งแรกที่วางกระถางต้นดอกบอลลูนไว้ในแดดรำไร ทำท่าจะเป็นเชื้อราที่ต้น
โดยเหี่ยวแห้งตายนึ่งเป็นกิ่งๆ ซะงั้น เลยจับตัดกิ่งที่มีปัญหาทิ้ง แล้วจับมาวางไว้
กลางแดดจัดเลย โดยรดน้ำให้เช้า-เย็น คิดว่าตายป็นตายก็แล้วกัน แต่ปรากฏว่า
ชูช่องามขึ้นมาเริ่มออกดอก ต้นแข็งแรงขึ้นมาซะงั้น แปลว่าเจ้านี่ชอบน้ำ
แต่น้ำต้องไม่ขังนะ แล้วก็ชอบแดดด้วย
ออกดอกมาหลายรอบแล้ว ดอกที่โรยก็ตัดก้านทิ้งแล้วก็ ใส่ปู๋ยอินทรีย์ รดน้ำสม่ำเสมอ
แค่นี้ก็จะออกดอกให้ชื่นชมไม่ว่างเว้น ชอบสีของดอกที่มีสีสดตัดกับใบซึ่งมีสีเขียวเข้ม
ทำให้ดูสวยสะดุดตามาก สวยจริงๆค่ะ
แค่นี้ก็จะออกดอกให้ชื่นชมไม่ว่างเว้น ชอบสีของดอกที่มีสีสดตัดกับใบซึ่งมีสีเขียวเข้ม
ทำให้ดูสวยสะดุดตามาก สวยจริงๆค่ะ
ดอกจะมีลายเส้นสีเข้มชัดเจนจากโคนกลีบดอกมาปลายดอก ดูอย่างกับเป็นเสันเลือด
ข้อมูลทางวิชาการค่ะ
ชื่อสามัญ Balloon
flower
ชื่อวิทยาศาสตร์ Platycodon grandiflorus (Jacq.) A. DC.วงศ์ Campanulaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ Platycodon grandiflorus (Jacq.) A. DC.วงศ์ Campanulaceae
ลักษณะทั่วไป
ต้น เป็นไม้เถาเลื้อย
เนื้อแข็ง อายุหลายปี มีหัวใต้ดิน
ใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม
ใบรูปใบหอกแกมรี กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 5-7 เซนติเมตร
ปลายใบ แหลม โคนใบมน ชอบใบจักฟันเลื้อยซ้อน ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม
ดอก มีหลายสีเช่น สีขาว ชมพูหรือม่วงอมน้ำเงิน
อาจมีเส้นสีม่วงเข้มกลางกลีบ
ออกเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ
แบบช่อเชิงหลั่น รูปถ้วย มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก แหลม คล้ายรูปดาว
ดอกบานเต็มที่
กว้าง 3-5 เซนติเมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น